จากวิกฤตการณ์ Covid 19 ส่งผลให้โลกต้องกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรค ทั้งการกักตัว งดการสัมผัส ลดกิจกรรมต่างๆที่มีโอกาสให้เชื้อโรคติดต่อจากคนสู่คน สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดชะงักส่งผลกระทบต่อ ธุรกิจสถานที่ท่องเที่ยว ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจอีเว้นท์ ธุรกิจร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าและขยายวงกว้างไปสู่ธุรกิจอื่นๆ จนได้รับผลกระทบทางธุรกิจไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจสถาบันการเงิน และธุรกิจเทคโนโลยีอย่างกิจการ Startup การปรับตัวไปสู่ การอยู่รอด และการใช้ชีวิต การทำธุรกิจของผู้คนแม้ในช่วงที่มีอัตราระบาดของโลกลงลดลง แต่เมื่อยังไม่มียารักษาโรคหรือวัคซีนที่มีการรับรองทางการแพทย์ การใช้ชีวิต การทำธุรกิจยังต้องคิดถึงวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เรียกว่า New Normal ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ย่อมส่งผลถึงธุรกิจอย่างมาก การเตรียมพร้อมในการปรับตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ วันนี้ AccRevo จึงรวบรวมวิธีการจัดการธุรกิจในยุค New Normal มาฝากนะคะ
1. New Normal ในธุรกิจ
สิ่งที่เราต้องเริ่มตรวจสอบคือในยุค New Normal พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างไร Social distancing จะเป็นปัจจัยหลัก ถ้าเราเป็นธุรกิจร้านอาหาร การทานอาหารที่ร้าน โดยมีระยะห่างมีผลต่อจำนวนลูกค้าและรายได้ของธุรกิจที่ชัดเจน อาจหายไปมากกว่าครึ่ง สำหรับธุรกิจโรงแรม สายการบิน การเดินทางที่ต้องมีการควบคุมป้องกันการระบาดของเชื้อโรค การเดินซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าที่จะมีอัตราลดลง ความเข้าใจถึงพฤติกรรมลูกค้าและมาตรการการป้องกันโรคเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจ สภาพเศรษฐกิจหลังจากที่การหยุดชะงักอาจต้องการเวลาในการตั้งหลักอีกสักระยะ ผู้คนอาจต้องคุมรายจ่ายและยังไม่กลับมาจับจ่ายใช้สอยเท่าเดิม ในยุค New Normal สิ่งเหล่านี้อาจกระทบต่อรายได้ของธุรกิจได้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
2. Cash War room
การรู้ถึงสุขภาพการเงินของธุรกิจเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ผ่านสถานการณ์ไปได้ การตรวจสอบกระแสเงินสดระยะสั้นในช่วง 13 สัปดาห์ ที่เรียกว่า Cash War Room จะช่วยให้สามารถประมาณความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้เบื้องต้นหลังจากที่ได้ประเมิน New Normal ของธุรกิจแล้ว ทั้งรายได้และรายจ่ายในช่วง 13 สัปดาห์ที่สำคัญข้างหน้านับจากวันนี้ มาดูกันว่าจาก สูตรการคำนวณ Cash war room ว่าสุขภาพการเงิน 13 สัปดาห์จากวันนี้มีอะไรต้องเป็นห่วงกัน
Cash war room = เงินสดคงเหลือปัจจุบัน + วงเงินเครดิตที่ยังเบิกได้+ รายได้และลูกหนี้ที่มีกำหนดชำระแล้ว - เจ้าหนี้ที่มีกำหนดชำระ - เงินงวดผ่อนชำระหนี้ - รายจ่ายของธุรกิจ (เงินเดือน + ค่าเช่า + ค่าใช้จ่ายธุรกิจ)
ถ้าผลยังเป็น บวกก็แปลว่าสุขภาพการเงินยังดีอยู่ แต่ถ้าเป็นลบอย่าเพิ่งตกใจ ติดตามข้อต่อไปนะคะ
3. Cash Management
การจัดการการเงินเป็นสิ่งสำคัญ แบ่งการจัดการเงินเป็น 3 กิจกรรม คือการทำธุรกิจ การลงทุน และการจัดหาเงิน ถ้า Cash war room ติดลบ สิ่งแรกที่ต้องทำ การจัดการกระแสเงินสดในการทำธุรกิจ ต้องประเมินสินค้าคงเหลือที่ค้างนานลดให้เหลือน้อยที่สุด ติดตามลูกหนี้ให้ชำระตามกำหนด เจรจากับเจ้าหนี้ ขอลดค่าเช่า หรือใช้มาตรการของธนาคารในการขอพักชำระหนี้ ต่อมาคือหยุดการลงทุนที่ไม่จำเป็น หรือทางสินทรัพย์ไหน มีค่าใช้จ่ายในการดูแลการขายออกอาจเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดรายจ่ายได้ หัวใจสำคัญข้อสามคือ การจัดหาแหล่งเงินทุน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้โดยมีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม เพราะถ้าดอกเบี้ยสูงเกินไป ก็อาจก่อปัญหาใหม่ให้ธุรกิจได้ และถ้าเป็นธุรกิจ Tech Startup เงินทุนสนับสนุนภาครัฐก็อาจเป็นอีกทางลือกหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจเดินต่อไปได้
4. Business Model
หลังจากจัดการธุรกิจให้ตั้งหลักได้แล้ว การกลับมาทบทวนรูปแบบธุรกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ จาก New Normal ถ้าธุรกิจน่าจะมีรายได้ลดลงในระยะยาว การปรับแผนธุรกิจ หาวิธีการหารายได้ใหม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อธุรกิจกลับมาเดินได้ การแข่งขันรูปแบบใหม่กำลังเริ่มขึ้น การเตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้ออกตัวได้เร็วขึ้น นอกจากการปรับวิธีการหารายได้แล้ว การปรับโครงสร้างต้นทุนและรายจ่ายก็เป็นหัวใจสำคัญเช่นกัน ลดรายจ่ายคงที่ให้มากที่สุดเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของต้นทุนที่เพิ่มลดตามรายได้ ในยุค New Normal การมีออฟฟิศใหญ่ๆ หรูๆ กลางเมือง อาจไม่ใช่หัวใจของความสำเร็จ การเข้าถึงและให้บริการลูกค้าได้ด้วยเครื่องมือดิจิทัล อาจเป็นสิ่งสำคัญกว่า การปรับควบคู่กันทั้งรายได้และต้นทุนจะช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
การปรับตัวของธุรกิจให้เข้ากับยุค New Normal จะช่วยให้ธุรกิจผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการปรับตัวนี้ไปได้ และแม้ New Normal นี้อาจดูไม่สวยงามสำหรับหลายๆธุรกิจ แต่ ไม่ช้าก็เร็วคลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงจะมาสู่ธุรกิจเสมอ การปรับตัวจึงเป็นหัวใจหนึ่งของความสำเร็จ ท้ายนี้ AccRevo อยากฝากสิ่งสำคัญให้กับเพื่อนๆนักธุรกิจว่า “เงินสดคือสิ่งสำคัญ การมีต้นทุนคงที่ต่ำสำคัญกว่า แต่แผนการเงินที่ดีสำคัญที่สุด”