ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ “COVID-19” ส่งผลต่อการใช้ชีวิตการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ลองมาดูกันว่าวิถีธุรกิจในยุคใหม่ หรือ Next Normal เป็นอย่างไร
1. E-commerce and Delivery platform
การขยายตัวและเกิดขึ้นใหม่ของ ธุรกิจ E commerce และ Delivery platform จะกลับมาเติบโตให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่หันกลับมาซื้อของออนไลน์ สั่งสินค้าด้วยวิธี Delivery แต่ที่น่าสนใจคือ การเกิดใหม่ของ Platform ซึ่งจะมีผู้เล่นรายใหม่ๆจากการปรับธุรกิจเพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ ทำให้ การแข่งขันในตลาดนี้ดุเดือดขึ้น ส่งผลให้การขนส่งแบบ Last mile next hour คือส่งแม้ระยะใกล้ๆ และส่งทันทีเมื่อสั่งสินค้า ทำให้อาชีพ Rider เติบโตขึ้นและมีรายได้ที่มากขึ้น
2. Hospitality Service
การดูแลสุขภาพด้วยการใส่หน้ากาก ลดการกินอาหารนอกบ้าน นอกจากป้องกันการติด Covid แล้วก็ยังลดการติดโรคยอดฮิต เช่น ไข้หวัดใหญ่ ท้องเสีย และการทำอาหารที่บ้าน ก็ช่วยให้คนดูแลสุขอนามัยในการกิน มากขึ้น เช่นทำอาหารเอง หุงข้าวจากหม้อหุงข้าวลดน้ำตาล ทอดอาหารด้วยเตาทอดไร้น้ำมัน สิ่งเหล่านี้ทำให้คนไปโรงพยาบาลลดลง ธุรกิจโรงพยาบาล จะต้องปรับตัวเองด้วยการทำงานเชิงรุกเช่น การให้คำปรึกษาทางไกล การออกตรวจลูกค้าที่บ้าน รวมถึงการหันมาทำธุรกิจด้านเวชศาสตร์ป้องกันมากขึ้น
3. Education and people reskill
ธุรกิจการศึกษาที่เคยได้รับผลกระทบจาก ประชากรโลกที่เกิดลดลง และ Technology disruption ทำให้การเรียนจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากผ่าน Academy ต่างๆ ถูกเร่งให้เร็วขึ้นด้วย Covid การเรียนออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่ต้องทำแต่ตั้งนักเรียนประถมจนถึงมหาวิทยาลัย และรวมถึงการ Reskill ของคนวัยทำงาน ที่สามารถเรียนจากกูรูระดับโลกได้ทันทีด้วยโอกาสและต้นทุนที่เข้าถึงได้ ผ่านการวิเคราะห์ของครูผู้จัดคอร์สการเรียนรู้ที่ต้องพัฒนาไปพร้อมๆกัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คนพัฒนาทักษะขึ้นได้อย่างรวดเร็วผ่าน Platform การเรียนรู้ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. Work force
การ Work From Home ส่งผลให้นายจ้างต้องปรับวิธีการทำงานโดยควบคุมผลลัพธ์มากกว่าเวลาทำงาน และลูกจ้างถูกฝึกให้เรียนรู้รับผิดชอบงานของตนให้ส่งตามกำหนด คนที่มีความสามารถจถูกคัดเลือกไว้ทำงานรูปแบบการจ้างงานจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นจ่ายตามผลลัพธ์และการเข้ามาที่ออฟฟิศเพื่อประชุมเท่านั้นก็จะส่งผลให้บริษัทที่มีพื้นที่สำนักงานขนาดใหญ่ต้องย่อตัวลงเพื่อทำให้ต้นทุนคงที่เหมาะสมกับโครงสร้างต้นทุนของธุรกิจ
5. Rise of machine
บทบาทของคนในองค์กรจะลดลง การใช้เครื่องมือดิจิทัล Robotic หรือระบบจะได้รับความนิยมมากขึ้น ควบคุ่กับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Data Analytic บทบาทของผู้หริหารจะต้องชัดเจนขึ้น การสื่อสารภายในองค์กรผ่านทาง Platform ที่ช่วยติดตามงานโครงการจะช่วยลดบทบาทของผู้บริหารระดับกลางเพื่อให้การควบคุมงานได้เร็วและปรับเปลี่ยนได้ตามวสถานการณ์มากขึ้น
6. Share Services
ธุรกิจจะหันมา focus เฉพาะ Core Business เท่านั้นเพื่อทำให้คล่องตัวกับการแข่งขัน งานหลังบ้านเช่น ธุรการ บัญชี การเงิน จะหันมาใช้บริการ Out source หรือการ Share Service เพื่อลดต้นทุนในการจ้างเคยเป็นแผนก การใช้โปรแกรมจัดการธุรกิจ On cloud เช่น การจัดการทรัพยากรบุคคล การเงิน กฎหมาทยหรือแม้กระทั่งบัญชี ที่มีบริการผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลจะช่วยประหยัดต้นทุนธุรกิจได้มาก และมั่นใจในประสบการณ์ ลดต้นทุนในการพัฒนาบุคลากรลง แต่ ธุรกิจ Share พื้นที่ เช่น Co working space และ Hostel ที่ห้องนึงใช้งานพร้อมกันได้หลายๆคน จะมีความนิยมที่ลดลง
7. Cyber Security and Privacy
คนจะยอมสละความเป็นส่วนตัวและยอมเปิดเผยข้อมูลเพื่อการติดตามพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคและได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ การรักษาความปลอดภัยของระบบงานจะเป็นธุรกิจที่เติบโต ทั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาดและทำให้ไม่เกิดการใช้ข้อมูลอย่างไม่ถูกต้อง ความเชื่อมั่นของระบบและจริยธรรมของผู้ให้บริการระบบจะช่วยทำให้จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและหาก ความเป็นส่วนตัวถูกละเมิด นั่นคือการล่มสลายของความนิยมใน Platform ด้วยเช่นกัน
แนวโน้มต่างๆเหล่านี้เกิดมาทั้งจาก กระแส Digital Disruption เดิมและเร่งด้วยสถานการณ์ Covid ส่งผลให้ Next Normal ของธุรกิจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การเตรียมพร้อมรับมือและการปรับตัว จะช่วยให้ธุรกิจ สามารถดำเนินไปได้แม้ในภาวะเช่นใดก็ตาม AccRevo ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆนักธุรกิจผ่านสถานกาณ์และปรับตัวได้กับอนาคตที่กำลังใกล้เข้ามานะคะ