🟠ชี้ 6 จุดอ่อน ถึงเวลารื้อโครงสร้างประเทศ 🗣คุณ ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB)
เราควรจะมองวิกฤต ครั้งนี้ว่าเป็นโอกาส อย่า Waste good crisis เราเคยก้าวกระโดดทุกครั้งได้หลังวิกฤต ไทยเรามีประชากรในอันดับ 20 ของโลก เงินสำรองในอันดับที่ 13 ของโลก มีนักท่องเที่ยวเข้าอันดับ 8 ของโลก ส่งออกเป็นอันดับ 24 ของโลก แต่มี Gdp ต่อหัวประชากรอันดับ 70-80 ของโลก
📌วัคซีน 6 ด้าน ที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วย
1.การสร้างภูมิคุ้มกันและแต้มต่อให้ SMEs เนื่องจากผู้ประกอบการ SMEs มีสัดส่วนถึง 99.8% ของธุรกิจในประเทศ คิดเป็นผู้ประกอบการถึง 3.1 ล้านราย และมีการจ้างงานถึง 38 ล้านคน เรามี SMEs 3 ล้านราย แต่เป็นบริษัทใหญ่เพียง 0.2% การเติบโตของ GDP อยู่ที่บริษัทขนาดใหญ่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมีลักษณะของธุรกิจที่พึ่งพากัน ในขณะที่บ้านเราเน้นในการแข่งขันกันเอง หลายๆประเทศ มีความแข็งแรงจากการบริโภคภายในประเทศ ไม่ใช่การส่งออก นั่นแปลว่า คนชั้นกลางหรือ SMEs ต้องมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น การสร้างแต้มต่อและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่ SMEs ด้วยมาตรการภาษีในการซื้อสินค้าและบริการจาก SMEs ทั้งของบริษัทใหญ่และประชาชนทั่วไปด้วยระบบ Digital Economy จะช่วยให้ SMEs เข้าระบบ และเพิ่มรายได้ของรัฐในรูปภาษี
2.การสร้างภูมิคุ้มกันให้โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เราต้องเลือกกลยุทธ์การแข่งขันให้เหมาะสม
3.การสร้างภูมิคุ้มกันให้โครงสร้างรายได้ โดยการเพิ่มฐานและลดการกระจุกตัวของภาษีทั้งในส่วนภาษีของประชาชน และภาษีของบริษัทที่อยู่ในระบบ ผู้เสียภาษีจำนวน 10% จ่ายภาษี 90% ของภาษีทั้งหมด ยังมีการทำธุรกิจที่อยู่นอกระบบภาษีอยู่อีก ระบบภาษีพึ่งพิงเม็ดภาษีอย่างกระจุกตัว การกระจายรายได้ให้ SMEs แข็งแรงขึ้น จะช่วยให้รายได้ของรัฐเพิ่มมากขึ้น
4.การสร้างภูมิคุ้มกันให้เศรษฐกิจในภูมิภาค โดยต้องมีการกระจายอำนาจ กระจายทรัพยากรและสร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่ตามบริบทที่เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น เช่น เกษตรแปลงเล็กที่สามารถเชื่อมกับธุรกิจท่องเที่ยว เกษตรอุตสาหกรรมที่แปรรูปเป็นสินค้าที่มีคุณค่ามี Sclae ที่สามารถเติบโตได้และเพื่อนำไปสู่การกระจายรายได้ที่ดีกว่าในระดับท้องถิ่น
5.การสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการพัฒนาโครงสร้างสำหรับอนาคต ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจใหม่และทรัพยากรดิจิทัลที่จะเป็นอนาคตของประเทศ ทั้ง digital id, digital document และ digital payment จะทำให้เกิด New S curve ของประเทศจากธุรกิจเดิม เช่น เกษตร ท่องเที่ยว อาหาร สุขภาพ ยานยนต์และธุรกิจบริการด้วยการต่อยอดด้วย เทคโนโลยี เพื่อสร้างคุณค่าของธุรกิจให้มีมูลค่าที่สูงขึ้นและ High margin
6.การสร้างความสะดวกให้กับการทำธุรกิจ (Ease of doing business) โดยการยกเครื่องกฎหมาย ลดขั้นตอน และลดความยุ่งยาก หรือแม้กระทั่ง ออกกฎหมายที่หน่วยงานใช้ร่วมกัน (Omnibus law) เพื่อความง่ายในการปฏิบัติ
🌟ถึงเวลาแล้วที่เราจะใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์ในการฝ่าวิกฤตของประเทศร่วมกัน
🎞คลิกที่นี่เพื่อรับชมวิดีโอได้เลยค่ะ : https://www.youtube.com/watch?v=j8u55GA-1mo