👉รู้หรือไม่? กรรมการอิสระ และ กรรมการตรวจสอบต่างกันอย่างไร
คณะกรรมการบริษัทมีบทบาทเป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้นมีหน้าที่สำคัญในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายและกลยุทธ์ที่สำคัญของกิจการ และดูแลให้มั่นใจว่าฝ่ายจัดการได้นำนโยบายและกลยุทธ์ไปปฏิบัติตามที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น คณะกรรมการจึงควรประกอบด้วยผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวอย่าง มีประสิทธิภาพโดยมีองค์ประกอบที่เป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมในการบริหาร และกรรมการที่ไม่มีส่วนร่วมในการบริหารในสัดส่วนที่จะทำให้เป็นคณะกรรมการที่มี ความรู้ความชำนาญที่หลากหลายเหมาะสมกับธุรกิจและมีการถ่วงดุลอำนาจภายในคณะกรรมการของบริษัทเพื่อให้กรรมการทุกคนแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระและไม่ให้มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดมีอำนาจเหนือการตัดสินใจของคณะกรรมการบริษัท
🟠กรรมการอิสระ (Independent Director : ID)
มีองค์ประกอบของคณะกรรมการ = มีกรรมการอิสระอย่างน้อยหนึ่งในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน
🌟คุณสมบัติของกรรมการอิสระ
1. ถือหุ้นไม่เกิน 1 % ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท* ทั้งนี้ให้นับรวมการถือหุ้นของผู้ที่เกี่ยวข้องของกรรมการอิสระรายนั้น ๆ ด้วย
2. ไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหารงาน ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่ได้ เงินเดือนประจำ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท* เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะ ดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
3. ไม่เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด หรือโดยการจดทะเบียนตามกฎหมายของ กรรมการรายอื่น
4. ไม่มีหรือเคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทในช่วง 2 ปีก่อนหน้า
5. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทในช่วง 2 ปีก่อนหน้า
6. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ให้บริการทางวิชาชีพอื่นที่ให้บริการเกิน 2 ล้านบาทต่อปีในช่วง 2 ปีก่อนหน้า
7. ไม่เป็นตัวแทนของกรรมการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่
8. ไม่ประกอบกิจการที่มีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับบริษัทหรือบริษัทย่อย
9. ไม่มีลักษณะอื่นใดที่ทำให้ไม่สามารถให้ความเห็นอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท
🟡กรรมการตรวจสอบ (Audit Committee : AC)
มีองค์ประกอบของคณะกรรมการ = มีกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 คน (อย่างน้อย 1 คน ที่มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอที่จะสามารถทำหน้าที่ในการสอบทานความน่าเชื่อถือของงบการเงินได้)
🌟คุณสมบัติของกรรมการตรวจสอบ
1. ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการ หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทให้เป็นกรรมการตรวจสอบ
2. มีคุณสมบัติเป็นกรรมการอิสระ
3. ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการให้ตัดสินใจในการดำเนินกิจการ
4. ไม่เป็นกรรมการของบริษัทใหญ่บริษัทย่อย หรือบริษัทย่อยลำดับเดียวกันเฉพาะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน
5. มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอที่จะสามารถทำหน้าที่ในฐานะกรรมการตรวจสอบ
➡️การดำเนินการเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการตรวจสอบ
▪️เมื่อกรรมการตรวจสอบลาออก : บริษัทมีหน้าที่ต้องแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ทันทีผ่าน ระบบ SETLink พร้อมระบุเหตุผลที่ลาออกด้วย
▪️เมื่อแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบ : บริษัทมีหน้าที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ผ่านระบบ SETLink ดังนี้
1. แบบแจ้งรายชื่อและขอบเขตการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบ (แบบ F24-1) เพื่อเผยแพร่ต่อผู้ลงทุน ภายใน 3 วันทำการ
2. หนังสือรับรองและประวัติของกรรมการตรวจสอบ (แบบ F24-2) เพื่อเป็นข้อมูล ต่อตลาดหลักทรัพย์ ภายใน 7 วันทำการ
➡️กรณีเปลี่ยนแปลงขอบเขตหน้าที่งานของคณะกรรมการตรวจสอบ : บริษัทมีหน้าที่แจ้ง ต่อตลาดหลักทรัพย์ตามแบบ F24-1 ภายใน 3 วันทำการ
.
➡หากคุณกำลังมองหาสำนักงานบัญชีออนไลน์ หรือตัวช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจออนไลน์ AccRevo สามารถช่วยคุณได้
.
🔶ง่าย ครบ จบ! เรื่องการทำบัญชี
.
📊สนใจผู้ช่วยวางแผนโครงสร้างธุรกิจ
วางแผนภาษีและเครื่องมือจัดการธุรกิจดิจิทัล
ที่ตอบโจทย์ ติดต่อ AccRevo ได้เลยค่า
.
.
➡️ ติดตามข่าวสาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ID Line > https://page.line.me/accrevo
Facebook : https://www.facebook.com/accrevo
Instagram : www.instagram.com/accrevo_ai/
Youtube chanel : https://bit.ly/accrevo
Tiktok : https://bit.ly/accrevochannel
โทร : 096-297-4566
Website : www.accrevo.com
.
☑️☑️ สนใจทดลองใช้ระบบ AccRevo ☑️☑️
สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน
คลิกที่ลิ้งค์เลยค่า >> https://bit.ly/2H8HqFE