เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงาน และพิจารณาแนวการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับผู้ประกอบการในส่วนของรายได้จากเงินอุดหนุน
🌟หลักเกณฑ์-คุณสมบัติ
✅นายจ้างภาคเอกชนใน ระบบประกันสังคม
✅มีการจ้างลูกจ้าง สัญชาติไทย ไม่เกิน 200 คน
✅ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ต.ค. 2564 (20 ต.ค. - 20 พ.ย. 64)
✅นายจ้างต้องรักษาการจ้างงาน ไม่ต่ำกว่า 95% ระหว่างร่วมโครงการ
✅กรณีจ้างงานเพิ่ม ได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนจ้างงานจริง ไม่เกิน 5% ของจำนวนลูกจ้าง ณ วันเริ่มโครงการ
🌟เงื่อนไขการจ่ายเงิน
✅จ่ายเงินอุดหนุน 3,000 บาท/คน/เดือน
✅รับเงินอุดหนุน 3 เดือน (30 พ.ย.64 / 30 ธ.ค.64 / 31 ม.ค.65)
“มาตรการนี้คาดว่าจะรักษาระดับการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยในธุรกิจ SMEs ที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 ราย ที่มีสถานประกอบการจำนวน 480,122 แห่ง และจะสามารถรักษาการจ้างงานลูกจ้างได้จำนวน 5,040,176 คน”
➡️โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้าง เพื่อรักษาการจ้างงาน
➡️สนับสนุนอัตรา 3,000 บาท ต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในเดือนพฤศจิกายน 2564 - มกราคม 2565
🏛ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่เป็นนายจ้างภาคเอกชน ที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ฐานข้อมูลประกันสังคม ม.33 สถานะ Active) ที่มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564
➡️ โดยที่นายจ้างจะต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ หากไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น และกรณีนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริงไม่เกินร้อยละ 5
☀️ทั้งนี้ นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัด ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฯ
📌 สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการที่ต้องการร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม - 20 พฤศจิกายน 2564
📌คลิกลงทะเบียนรับสิทธิ
➡️พร้อมแนบเอกสาร ดังนี้
1.สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร
2.กรณีมอบอำนาจ แนบหนังสือมอบอำนาจ/สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการอนุมัติเข้าร่วมโครงการที่เว็บไซต์ดังกล่าวภายใน 5 วันทำการ นับจากวันที่ลงทะเบียน
🏛ทั้งนี้ ผู้สนใจที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694
.
ที่มา : มติคณะรัฐมนตรี